รวมหลากหลายแนวทางการจากไปโดยไร้พิธีกรรม
มีใครเคยลองจินตนาการนึกถึงงานศพของตัวเองบ้างไหมคะ ว่าจะจัดออกมาแบบไหน มีใครมาบ้าง แต่แล้วพอเวลาผ่านไป ความคิดต่าง ๆ ก็เริ่มเปลี่ยนไป พิธีกรรมเริ่มลดความสำคัญลง ถ้าเราเกิดจากไปขึ้นมาจริง ๆ จากไปแบบปราศจากการประกอบพิธีกรรมใด ๆ จากไปอย่างเรียบง่าย รวบรัด และมองในเรื่องความคุ้มค่าด้านสิ่งแวดล้อมมากกว่าเรื่องของศาสนา เราจึงมีไอเดียแนวทางการจัดการ หากต้องจากโลกนี้โดยปราศจากพิธีกรรม
สหราชอาณาจักรและสวีเดน
การจากไปที่แสนจะเรียบง่ายของทั้งสองประเทศ ที่เริ่มต้นจากปัญหาเรื่องพื้นที่ที่จำกัด รวมถึงเมื่อรวมกับการจัดพิธีต่าง ๆ แล้วนั้นเป็นสิ่งที่มาพร้อมค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น ในช่วง 2-3 ปี ผู้คนเน้นทำศพอย่างเรียบง่ายที่สุด คือ ไม่มีพิธีอะไรเลย เป็นการนำร่างจากโรงพยาบาลไปสู่ฌาปนสถาน เมื่อเผาแล้วเจ้าหน้าที่ที่ไม่ได้กำหนดขึ้นเป็นพิเศษก็จะเป็นผู้นำอัฐิไปโปรยลงในสวนสำหรับการโปรยเถ้ากระดูก

ญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นประสบปัญหาภาวะขาดแคลนที่ดินในการสร้างสุสานหรือพื้นที่ฝังศพเต็ม จึงเกิดพิธี Jumokusō หรือการฝังใต้ต้นไม้ คือจะมีการเผาแล้วนำเถ้าฝังลงในดินพร้อมปลูกต้นไม้

สิงคโปร์
สิงคโปร์ได้เปิดสวนที่ออกแบบเน้นประโยชน์ให้ทั้งคนเข้าไปออกกำลังกาย และให้คนเข้าไปทำการโปรยอัฐิ ซึ่งการโปรยอัฐิจะค่อนข้างเป็นไปอย่างอิสระ ที่ได้รับการแบ่งส่วนซอยย่อยให้ การโปรยก็โปรยในพื้นที่ที่กำหนด จะโปรยตรงไหนก็ได้ เสร็จแล้วก็มีน้ำสำหรับรดผงอัฐิลงไป

พิธีศพแบบเรียบง่ายก็เข้ากับสถานการณ์โควิดเหมือนกันนะคะ หนึ่งในปัญหาที่พบได้มากคือเรื่องค่าใช้จ่ายในการจัดการศพ โลงทานจึงขอเป็นสื่อกลางที่จะมอบโลงศพ พร้อมการเคลื่อนย้ายและฌาปนกิจให้ผู้ยากไร้แบบฟรี ๆ โดยท่านสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยเหลือ ด้วยการบริจาคโลงศพ ทำบุญโลงศพ แบ่งปันบ้านหลังสุดท้าย และความสุข สงบ ร่มเย็น จะกลับคืนสู่ทุก ๆ ท่านที่ร่วมบริจาค